ภาพสีโปสเตอร์
ชื่อภาพ : กวนอู
เทคนิค : สีโปสเตอร์
พ.ศ. : 2554
ศิลปิน : ชูศักดิ์ บุญชัย
ขนาด : 1 เมตร x 1.5 เมตร
ข้อมูล วาดด้วยสีโปสเตอร์ ส่วนสีทองใช้ทองคำเปลวแท้ โดยใช้น้ำกระเทียมทาเป็นตัวยึดทองคำเปลว โดยฝึกการวาดภาพจีนด้วยตนเอง เริ่มต้นในวัยเด็ก เอาซองบุหรี่ของจีนมาฝึกวาด แข่งกับเพื่อนชาวจีน ในละแวกบ้าน และฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ
ภาพเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย จากวรรณกรรม "สามก๊ก"
ชื่อภาพ : ภาพเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย จากวรรณกรรม "สามก๊ก"
เทคนิค : สีโปสเตอร์
พ.ศ. : 2544
ศิลปิน : ชูศักดิ์ บุญชัย
ขนาด : 1 .5 เมตร x 1 เมตร
ข้อมูล วาดด้วยสีโปสเตอร์ ส่วนสีทองใช้ทองคำเปลวแท้ โดยใช้น้ำกระเทียมทาเป็นตัวยึดทองคำเปลว โดยฝึกการวาดภาพจีนด้วยตนเอง เริ่มต้นในวัยเด็ก เอาซองบุหรี่ของจีนมาฝึกวาด แข่งกับเพื่อนชาวจีน ในละแวกบ้าน และฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ
ภาพหงอคง อาละวาดสวรรค์ จากวรรณกรรม "ไซอิ๋ว"
ชื่อภาพ : ภาพหงอคง อาละวาดสวรรค์ จากวรรณกรรมไซอิ๋ว
เทคนิค : สีโปสเตอร์
พ.ศ. : 2540
ศิลปิน : ชูศักดิ์ บุญชัย
ขนาด : 1 .5 เมตร x 1.6 เมตร
ข้อมูล ตอนหงอคงต่อสู้กับเหล่าเทพเทวดาล้อมจับ ทั้งเทพเอ้อหลางเสิน (ยี่หนึ่งจินกุน) และ ถักทะลีทีอ๋อง (แม่ทัพสวรรค์) นาจา ท้าวจตุโลกบาล และเหล่ากองทัพสวรรค์ โดยมีเทพไท้เสียงเล่ากุน พระโพธิสัตว์กวนอิม และเง็กเซียนฮ่องเต้มาร่วม
พระโพธิสัตว์กวนอิม
เป็นพระโพธิสัตว์ในตามคติมหายาน เดิมเป็นเทพธิดาซึ่งต้องการช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยแก่มวลมนุษย์ ในชาติสุดท้ายจึงจุติลงมายังโลกมนุษย์นาม เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน เป็นพระราชธิดาองค์เล็กของกษัตริย์แห่งอาณาจักรซิงหลิง พระนามว่า
พระเจ้าเมี่ยวจวงกับพระนางเซี่ยวหลิน ตอนแรกเป็นชาวพุทธ ตอนหลังเทพไท่ไป๋ได้มาโปรด ชี้แนะหนทางดับทุกข์ เหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายเต๋าในเวลาเดียวกัน
เง็กเซียนฮ่องเต้
เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเป็นเทพเจ้าสูงสุดในด้านการปกครองตามลัทธิเต๋า ทรงเป็นองค์พระมหาจักรพรรดิที่ทรงปกครองเทวดาทั้งเก้าชั้น ซึ่งประกอบด้วยเทวดาเป็นหมื่นๆ องค์ ทรง
เป็นใหญ่เหนือ ฟ้า ดิน และมนุษย์ ทรงเป็นผู้สร้างสวรรค์ ทรงมีพระราชอำนาจที่จะสั่งเทวดาได้ทุกชั้นฟ้า ทรงควบคุมการสงคราม หยินและหยาง ทรงควบคุมการกำเนิด ทรงควบคุมองค์จักรพรรดิที่เป็นมนุษย์ ทรงควบคุมดูแลพื้นดิน แม่น้ำ ทรงควบคุมดูแลเทพารักษ์ที่สถิตอยู่ ณ มหาสมุทรทั้งหมดและภูเขาทั้งห้า สรุปได้ว่า ภาระหน้าที่ของพระองค์ก็คือ การบริหารจัดการ สวรรค์ พื้นดิน และมนุษย์
ไท้เสียงเหล่ากุง
เป็นศาสดาศาสนาเต๋า เดิมชื่อตาน หรือ เอ๊อร์ แซ่หรี่ เป็นชาวรัฐฉ้อ อำเภอหู เมื่อแรกเกิดมีผมหงอกขาวดุจชายชรา
จึงเรียกว่า เหล่า จื่อ (ทารกชรา) และมีผู้เรียก เหล่าตาน หรือ
หรี่เอ๊อร์ เพราะมีใบหูเพียงข้างเดียว ถือกำเนิดเมื่อก่อน
พุทธศก 27 ปี
กล่าวกันว่า เหล่า จื่อ มีอายุยืนถึง 160 ปี ด้วยชาติภูมิเป็นชาวรัฐฉ้อ เป็นรัฐภาคใต้ซึ่งประชาชนในรัฐหาใช่ชาวจีนแท้ทุกคน ความคิดความอ่านของชาวรัฐฉ้อ จึงเป็นความเสรี ไม่สู้ผูกมัดกับนิติธรรมเนียมประเพณีอย่างชาวจีนทางเหนือนัก ความคิดแบบเสรีนิยมนี้ จะพบเห็นได้จากลัทธิปรัชญา ซึ่งเหล่าจื่อ ได้รจนาไว้ในคัมภีร์ ต้าว เต๋อ จิง
หงอคง
ซุนหงอคง เป็นหนึ่งในตัวละครเอกเรื่องไซอิ๋ว กำเนิดจากหินที่ถูกแสงสุริยันจันทราอาบมากว่า 1,000 ปี วันหนึ่งจึงแตก และมีลิงตัวหนึ่งกระโดดออกมา เพื่อให้หลุดพ้นจากความตาย จึงเกิดความคิดจะออกเดินทางไปหาวิชาที่จะไม่ทำให้เจ็บ ไม่ทำให้ตาย ภายหลังจากฝึกวิชากับอาจารย์โผเถโจ๊ซือ เกิดอิทธิฤทธิ์ จนสวรรค์หวาดเกรงต้องส่งเทวดาลงมาปราบแต่สู้หงอคงไม่ได้จนพระยูไล (พระพุทธเจ้า) ต้องเสด็จมาปราบเอง และทับด้วยภูเขาห้านิ้วนาน 500 ปี จนมีพระถังซัมจั๋ง มาช่วยปลดปล่อย รับเป็นลูกศิษย์ เปลี่ยนชื่อเป็น เห้งเจีย ทำหน้าที่คุ้มกันพระถังซัมจั๋งจากเหล่าปีศาจจากการไปอันเชิญพระไตรปิฏกจากชมพูทวีป เมื่อสำเร็จมรรคผล ได้รับการพระราชทานชื่อจากพระยูไล ให้เป็น เต้าเจี้ยนเส้นฮุด หรือ พุทธพิชิตชัย
เทพเอ้อหลังเสิน (ยี่หนึงจินกุน)
เทพเอ้อร์หลังเสิน เดิมเป็นมนุษย์มีนามว่า เอียวเจี้ยน เป็นทายาทลำดับที่ 72 ของพระเจ้าอึ้งตี่ เป็นแม่ทัพนักรบสวรรค์ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ รูปลักษณ์เป็นแม่ทัพหนุ่มท่าทางสง่างาม ลักษณะเด่นคือ มีตาที่สามกลางหน้าผาก ถืออาวุธเป็นทวนมีดสามปลาย และมีสุนัขสวรรค์อยู่ข้างกาย ความเก่งกาจของท่านเป็นที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันดีจากพงศาวดารห้องสิน และวรรณกรรมไซอิ๋ว
เทพเอ้อร์หลังเพียรทำความดีนับแสนครั้ง เพื่อให้สวรรค์ปลดปล่อยมารดาของตนจากการคุมขัง ช่วยบิดาปราบมังกรที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร บรรเทาอุทกภัยแก่มนุษย์ ผู้คนเคารพประดุจเทพ ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งสวรรค์ เป็นหนึ่งในแม่ทัพที่มาช่วยกันรุมล้อมจับหงอคง ด้วยการช่วยเหลือของพระโพธิ์สัตว์กวนอิมและไท้เสียงเล่ากุนจึงสามารถจับหงอคงได้
นาจา
เดิมเป็นเทพที่อยู่บนสวรรค์มีชื่อว่า หลิน จินจื่อ บุตรของเทพเจดีย์ แต่ด้วยโลกมนุษย์มีปีศาจมาก ทางสวรรค์จึงส่ง
หลิน จินจื่อ มาจุติยังโลกมนุษย์ในยุคราชวงศ์ซาง เป็นบุตรของแม่ทัพหลี่ (หลี่เจ๊ง) และนางฮึ่นสี ในวัยเด็กเป็นเด็กที่ซนมากและไม่กลัวใคร เป็นเหตุให้บุตรพญานาคตาย แม่ทัพหลี่ก็ดุด่านาจาว่าเจ้าสมุทรโกรธมาก และจะถล่มเมือง จนในที่สุด นาจาน้อยใจจึงแล่เนื้อคืนแม่ และแล่กระดูกคืนพ่อ
เมื่อนาจาตายไปแล้วจึงหอบวิญญาณของตนไปพบเซียนซือจุน เซียนซือจุนเห็นว่า นาจามีความสามารถในการปราบมารปีศาจ จึงได้ชุบชีวิตให้กับนาจาโดยใช้ก้านบัวแทนกระดูก รากบัวแทนเนื้อ ใยบัวแทนเอ็น และใบบัวแทนเสื้อผ้าอาภรณ์ขึ้นมาใหม่
นาจามีบทบาทอย่างมากในวรรณกรรมห้องสิน ร่วมกับ
เอียวเจี้ยน หรือเอ้อร์หลางเสินในการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม
จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแม่ทัพสวรรค์
กวนอู
กวนอู เป็นขุนพลของขุนศึกเล่าปี่ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของจีน กวนอูมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกับเล่าปี่รวมถึงเตียวหุยและติดตามเล่าปี่ตลอดช่วงเริ่มตั้งตัว กวนอูมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ที่นำไปสู่ยุคสิ้นราชวงศ์ฮั่นและการสถาปนารัฐจ๊กก๊กของเล่าปี่ในยุคสามก๊ก กวนอูมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการตอบแทนบุญคุณของโจโฉด้วยการสังหารงันเหลียง ข้าศึกของโจโฉ โดยที่ตัวกวนอูยังคงภักดีต่อเล่าปี่ หลังจากเล่าปี่ยึดได้แคว้นเอ๊กจิ๋วในปี ระหว่างที่กวนอูนำทัพไปรบกับกองกำลังของโจโฉในยุทธการที่อ้วนเสีย ซุนกวนพันธมิตรของเล่าปี่ได้ทำลายความเป็นพันธมิตรซุน-เล่าแล้วส่งขุนพลลิบองเข้ายึดครองอาณาเขตของเล่าปี่ในแคว้นเกงจิ๋ว กว่าที่กวนอูซึ่งพ่ายแพ้ในการรบที่อ้วนเสียจะทราบข่าวการเสียแคว้นเกงจิ๋วก็สายเกินแก้ ภายหลังกวนอูถูกกองกำลังของซุนกวนซุ่มจับตัวได้และถูกประหารชีวิต
ภาพจากวรรณกรรมสามก๊กตอน เล่าปี กวนอู เตียหุยรุมต่อสู้กับลิโป้
ภาพซึงหงอคง จากวรรณกรรมไซอิ๋ว
คุณพ่อวาดให้หลานน่านที่ชื่นชอบหงอคงมาก
ภาพลายเส้น
พระโพธิสัตว์กวนอิม
เทพนาจา จากวรรณกรรมห้องสิน และไซอิ๋ว
เป็นเทพที่คุณปู่ชอบตั้งแต่วัยเด็ก คุณพ่อวาดไว้นานแล้ว
แต่ยกให้หลานน่านที่ชื่นชอบนาจาเช่นกัน