top of page

          พ่อชูศักดิ์ บุญชัย หรือ “พ่ออู๋” เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2476 ที่ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร บิดาชื่อ นายฮก มารดา
ชื่อ นางเจียน มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 5 คน มีพี่ชาย 1 คน (ฮวด) พี่สาว 2 คน (ปุ๋ย เง็ก) และน้องชาย 1 คน (ตี๋) โดยพ่อชูศักดิ์เป็นบุตรคนที่ 4 ครอบครัวของพ่อชูศักดิ์เป็นครอบครัวเชื้อสายไทย-จีน 

ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_36.jpg

          ครอบครัวของพ่อชูศักดิ์ เป็นครอบครัวชาวสวนผลไม้และอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน (นครชัยศรี) ใช้ชีวิตทำมาหากินด้วยวิถีทางน้ำ ทำให้พ่อชูศักดิ์ ผูกพันกับสายน้ำ และชื่นชอบเรือน้อยใหญ่ที่ขึ้นล่องตามแม่น้ำอย่างฝังใจ

          จากความรักในเรือ ทำให้อยากมีเรือไว้ครอบครอง แต่เมื่อครอบครัวฐานะยากจน ไม่สามารถมีได้ จนเมื่อมีพระภิกษุที่มาประจำวัดแถวบ้านชื่อ “หลวงพี่เจิม” ได้ทำเรือจำลองไว้เล่น ด้วยการเอาไม้หน่อลำพูมาขุดผูกด้วยหนังสติ๊กเป็นเรือลำเล็กที่แล่นได้ ทำให้พ่อชูศักดิ์หรือเด็กชายอู๋ได้โอกาสเรียนรู้กับหลวงพี่ แม้จะต้องมีระยะห่างจากการที่หลวงพี่เป็นวัณโรค

 

          ด้วยความที่เด็กน้อยอู๋มีฝีมือในการวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก (ด้วยการแข่งขันกับเด็กแถวบ้านวาดภาพจิตรกรรมจีน เช่น พระโพธิสัตว์กวนอิม ไซอิ๋ว และอื่นๆ โดยดูแบบจากซองบุหรี่) ทักษะทางศิลปะได้นำมาใช้การต่อเรือโดยปริยาย ทำให้พ่อชูศักดิ์เริ่มทำเรือจำลองเองตั้งแต่อายุเพียง 5-6 ขวบ

หลังจากจบประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดนางสาว เด็กชายอู๋ได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนผดุงราษฎร์วิทยา และในช่วงเวลาว่างก็ใช้ชีวิตล่องไปกับเรือ เมื่อเรียนจบก็ไปอยู่อาศัยกับญาติที่เป็นเจ้าของอู่ต่อเรือของชาวไหหลำ จึงได้เรียนรู้โครงสร้าง องค์ประกอบ และวิธีการต่อเรือจริงๆ

เมื่อจบจากโรงเรียนผดุงราษฎร์ฯ ก็เข้ามาเรียนศิลปะในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนเพาะช่าง สาขาจิตรกรรมไทย (เป็นรุ่นน้องคุณสุเทพ วงศ์กำแหง 1 รุ่น) ในช่วงเรียนเพาะช่าง พ่อชูศักดิ์ไม่ค่อยได้เข้าเรียนนัก แต่ใช้เวลาในการล่องเรือตามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่กระนั้นก็ยังเรียนได้ดี เพราะพ่อชูศักดิ์มีความโดดเด่นในการวาดภาพจิตรกรรมไทย จนอาจารย์ทวี นันทขว้าง ถึงกับเสนอพ่อชูศักดิ์มาเป็นอาจารย์ แต่สุดท้ายกรรมการโรงเรียนปฏิเสธเพราะอายุยังน้อย

173665.jpg
173674.jpg

          จนหลังจากเรียนเพาะช่างได้ 8 ปี จบแล้ว หางานไม่ได้จนมาสมัครเป็นตำรวจที่กองพลาธิการ กรมตำรวจ ทำงานในแผนกศิลป์ อยู่ในตำแหน่งพลตำรวจเป็น 10 ปี งานตำรวจไม่ใช่งานที่พ่อชูศักดิ์ชอบนัก จึงใช้เวลาว่างมาฝึกฝนต่อเรือ ประจวบกับได้เรียนรู้การเขียนแบบของสถาปนิกในกรม จึงได้เอาความรู้วิธีการเขียนแบบมาใช้กับการต่อเรือจำลอง จากเรือขุดก็ได้มาเป็นเรือต่อเหมือนจริง มีอัตราส่วนถูกต้อง และสามารถใส่เครื่องยนต์ ติดวิทยุบังคับ

 

ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_33.jpg
ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_45.jpg

          พ่อชูศักดิ์ ได้สมรสกับกับแม่มล หรือนางนฤมล บุญชัย ซึ่งเป็นครอบครัวไทยมุสลิม เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2508 และย้ายมาอยู่กับแม่นฤมลที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ท่าดินแดง อำเภอคลองสาน มีบุตรสองคน คือ คนโตชื่อ นางสาวกิ่งแก้ว บุญชัย (หรือ Kay Boonchai ปัจจุบันย้ายไปอยู่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา) และคนเล็กชื่อ นายกฤษฎา บุญชัย (ปัจจุบันทำงานองค์กรพัฒนาเอกชนชื่อ สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา)

 

          พ่อชูศักดิ์ทำงานตำรวจ ส่วนแม่นฤมลเป็นครูใหญ่ในโรงเรียนประถม ชื่อ “วัฒนะเวชช์” (เป็นโรงเรียนของตระกูลเซ็นสาส์น ตระกูลของแม่มล) พ่อชูศักดิ์ได้ใช้ชีวิตราชการสืบมาจากยศร้อยตำรวจโทจนมาถึงพันตำรวจโท

 

          จนเมื่อโรงเรียนวัฒนะเวชช์เลิกกิจการในปี 2529 ครอบครัวพ่อชูศักดิ์และแม่มลจึงย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านศรีนครพัฒนา 2 (ปัจจุบันคือ ซอยนวมินทร์ 80) ย่านบึงกุ่ม ถัดมาไม่นานพ่อชูศักดิ์ก็ลาออกจากราชการ (ที่ทำงานสุดท้ายคือ โรงพยาบาลตำรวจ) มาทำงานอิสระต่อเรือไทยจำลองและวาดภาพจิตกรรมจีนอย่างเต็มตัว

 

          ชื่อเสียงการต่อเรือไทยจำลองของพ่อชูศักดิ์เป็นที่รับรู้และยอมรับจากผู้คนสนใจงานศิลปะเรือจำลอง จนเริ่มมีคนสมัครขอเป็นลูกศิษย์ ด้วยการผลักดันของแม่มล พ่อชูศักดิ์จึงได้ก่อตั้ง “บ้านเรือไทย” ขึ้นมาราวปี 2540 เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ถ่ายทอดศิลปะการต่อเรือไทยจำลอง นับจากนั้นเป็นต้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหามาสมัครเรียนจนถึงบัดนี้ราว 50 คน

 

          เรื่องราวของศิลปะเรือไทยจำลองเริ่มเผยแพร่สู่วงกว้าง สำนักเขตบึงกุ่มได้มาติดต่อเพื่อนำเสนอเรื่องราวภูมิปัญญาท้องถิ่นของเขต สื่อมวลชนทั้งนิตยสาร รายการโทรทัศน์ก็ได้มาถ่ายทอดเรื่องราว

 

          ในห้วงเวลานั้น พ่อชูศักดิ์ก็ได้รู้จักกับกัลยาณมิตรที่เป็นศิลปินพื้นบ้านเรือไทยจำลอง คือ คุณไพฑูรย์ ขาวมาลา ผู้ก่อตั้งและเจ้าของพิพิธภัณฑ์เรือไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน ปัจจุบันมีเรือไทยจำลองของพ่อชูศักดิ์หลายลำตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เรือไทย

พ่อชูศักดิ์ประสบปัญหาสายตา เป็นต้อหินทั้งสองข้าง จนตาซ้ายมองไม่เห็น แต่กระนั้นพ่อก็ยังต่อเรือเรื่อยมา แม้จนถึงวันที่คุณแม่มลได้ไปสูสุคติเมื่อปี 2562 แล้ว คุณพ่อชูศักดิ์ก็ยังไม่หยุดต่อเรือ ด้วยความใฝ่ฝันที่ว่า “อยากจะเอาสิ่งที่เราใฝ่ฝันมาเป็นของเราจริงๆ”

          เรือของคุณพ่อชูศักดิ์ จึงไม่แค่ชิ้นงานศิลปะที่สะท้อนความงาม แต่คือบทบันทึกเรื่องราวชีวิตของเด็กน้อยอู๋สู่คุณปู่ชูศักดิ์ที่ฝันและใฝ่ในเรือไทย วิถีชีวิตสายน้ำนครชายศรี บอกเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของผู้คน สังคม และสายน้ำ ส่งต่อจิตวิญญาณศิลปะพื้นบ้านแก่ชนรุ่นหลังสืบไป

 

          คุณพ่อชูศักดิ์ จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 รวมอายุ 88 ปี โดยนำไปฝังที่มัสยิดนูรุ้ลมูบีน สี่แยกบ้านแขก เคียงคู่กับ คุณแม่นฤมล บุญชัย ซึ่งจากไป 2 ปีก่อนหน้านี้

เรื่องราวชีวิต ความใฝ่ฝัน และผลงานศิลปะเรือไทยจำลอง จิตรกรรมจีน ไทย

ของพ่อชูศักดิ์ บุญชัย ศิลปินท้องถิ่นแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี

ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_24.jpg
ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_25.jpg
ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_27.jpg
ภาพของพ่อ_๒๐๑๒๐๑_23.jpg
bottom of page